วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

Flower Festival in Arujá

ที่เมือง Arujá มีจัดเทศกาลงานดอกไม้ประจำปีขึ้น ด้วยความที่อยู่ใกล้บ้านมาก และไม่เคยไปเลยชวนสามีไปเดินดูดอกไม้กัน

AFLORD Arujá 
AFLORD Arujá - ลานจอดรด


AFLORD Arujá 

งานเทศกาลดอกไม้ หรือ AFLORD ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 22 แล้ว ส่วนสถานที่จัดงานก็อยู่ที่เมือง Arujá และไม่ไกลจากบ้านที่ฟิวส์อยู่มาก ขับรถออกจากหมู่บ้านมาที่งานประมาณ 10 นาทีก็ถึง ตอนไปถึงต้องวนหาที่จอดรถกันอยู่ซักพักเพราะรถเยอะมาก ทีแรกไม่คิดว่าคนจะมาเยอะ เพราะ Arujá ก็เป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่ที่ไหนได้ มีรถบัสทัวร์มาลง ส่วนใหญ่จะเป็นคนญี่ปุ่น-บราซิเลี่ยน เหมาคันมากัน เหมือนทัวร์ขนาดย่อมๆ ทำให้งานดูน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น คนเดินไปมาคึกคักมากเลยทีเดียวค่ะ 


ภายในงานมีจัดโซนไว้หลายโซน นอกจากจะมี โซน Exhibition ในส่วนที่จัดแสดงดอกไม้แล้ว ก็ยังมีโซนที่เป็นการแสดงกลางแจ้ง ที่มีโชว์การตีกลองญี่ปุ่น การแสดงสัตว์เลี้ยง และกิจกรรมเอนเตอร์เทนอื่นๆ อีกมากมาย รอบๆ งานมีเต้นขายอาหาร ส่วนมากจะเน้นหนักไปทางอาหารญี่ปุ่น มีอาหารสไตล์บราซิลบ้าง ร้านขายของที่ระลึก ขายของทั่วๆ ไป คล้ายๆ กับงานแฟร์บ้านเรา และส่วนสุดท้ายก็จะเป็นส่วนที่ขายพวกต้นไม้ ดอกไม้ และผักสวนครัว



AFLORD Arujá  - โซนจัดแสดงดอกไม้
AFLORD Arujá โซนจัดแสดงดอกไม้

AFLORD Arujá โซนร้านอาหาร

อากาศวันนั้นร้อนมาก แดดค่อนข้างแรง แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงสู้ตาย เดินชม เดินสำรวจไปทั่ว  (จริงๆ แล้วงานก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมายนะคะ) และที่สำคัญได้ของเล็กๆ น้อยๆ และหัวขมิ้นติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย :)


วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

Thai Food Festival (August 2013)

โบรชัวร์งาน Thai Food Festival
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้ไปชอปเสบียงพวกเครื่องปรุงไทยจากร้านประจำ ร้านที่คนไทยในเซาเปาโลต้องรู้จัก เนื่องจากเค้ามีเครื่องปรุงอาหารไทย นำเข้าจากประเทศไทยให้เลือซื้อ จับจ่ายใช้สอยมากมาย ใครมาอยู่ที่เซาเปาโลต้องรู้จัก และเคยมาร้านนี้กันแน่ๆ

... เข้าเรื่องนะคะ คือว่าเดือนที่แล้ว (เฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์) ทาง Thai Trade Center ได้ร่วมกับร้านขายเครื่องปรุงนำเข้าจากประเทศไทย จัดงาน Thai Food Festival ขึ้นเพื่อโปรโมทอาหารไทย เครื่องปรุงไทยๆ (ที่ทางร้านได้นำเข้ามาขาย) โดยมีการสาธิตวิธีการทำอาหารไทยที่ขึ้นชื่อสำหรับชาวต่างชาติให้ได้ชมและชืมกัน โดยงานนี้มีเชฟคนไทยชื่อดัง เชฟป๊อบปี้ จากร้านอาหารไทเกอร์ ในเมืองเซาเปาโล เป็นเชฟใหญ่ ควงตะหลิว สะบัดกระทะ ปรุงอาหารไทยให้ชาวบราซิเลี่ยนได้ชิมกัน บรรยากาศที่ได้ไปในวันนั้น บราซิเลี่ยนมุงเยอะมากมายืนดู รอชิมกันมากมาย


บราซิเลี่ยนมุง
ขอเป็นหน้าม้าให้ด้วยความเต็มใจค่ะ
เซฟป๊อบปี้


แม้ว่าอาหารไทยจะค่อนข้างแตกต่างและใหม่สำหรับคนบราซิลมากๆ แต่เห็นจากฟี้ดแบ็กแล้วก็คิดว่าโอเคนะคะ ถ้ามีการสนับสนุน และโปรโมทไปเรื่อยๆ เป็นระยะๆ น่าจะเป็นที่ยอมรับกว้างขวางขึ้นอีกมาก


หมายเหตุ : ไม่ได้เขียนบล๊อกนี้เพื่อการโฆษณาหรือโปรโมทให้กับทางร้านนะคะ จึงขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อร้านค่ะ  

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

ชีวิตขำๆ ในบราซิล

ตั้งแต่มาย้ายมาอยู่บราซิลเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว ก็คิดว่าครึ่งปีนี่ก็นานพอประมาณได้ หลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้แล้ว แต่ก็มีบางอย่างที่ยังคงไม่คุ้น ไม่ชินอยู่บ้าง กับวัฒนธรรมบราซิลเลี่ยนที่ได้พบได้เจอทุกวัน ขำๆ กับตัวเองไป


มอเตอร์ไซด์บีบแตร ปิ้นๆๆๆๆ

เนื่องจากบ้านอยู่นอกเมือง และต้องเดินทางไปนู่นนี่ตลอด เราจึงต้องอาศัยเส้นทางหลักเข้าเมือง และนั่นทำให้ต้องเผชิญกับแก็งสเตอร์มอเตอร์ไซด์เครื่องแรง ขี่ฉวัดเฉวียน พอๆ กับพี่วินบ้านเรา เพียงแต่ที่นี่เค้ามีวัฒนธรรมแปลกๆ คือ คนขี่มอเตอร์ไซด์จะบีบแตรข่มขู่รถยนต์ ว่ากรุณาให้ทาง อย่าริเบียด มอเตอร์ไซด์มาแล้ว ยังไงยังงั้น ปัญหาคือเวลาที่เราจะเปลี่ยนเลนก็ต้องหาช่องทาง ช่วงจังหวะดีๆ อย่าไปแหยมกับพี่มอเตอร์ไซด์เค้า เดี๋ยวจะโดนแจกนิ้วกลางอากาศให้ ต้องคอยฟังเสียงแตรดีๆ เพราะถ้าได้ยิน ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ ๆๆๆ รัวๆ ก็ให้รอไปก่อน ที่นี่มอเตอร์ไซด์เค้าขาใหญ่จริง อิอิ

เคยขับรถผ่านซีนอุบัติเหตุรถยนต์กับมอเตอร์ไซด์หลายครั้งอยู่เหมือนกัน จะสังเกตุได้ว่า เวลาที่เกิดเรื่อง เกิดอุบัติเหตุขึ้น ชาวมอเตอร์ไซด์ด้วยกัน เค้าจะแสดงความเป็นยูนิตี้ พากันจอดรถช่วย (ประหนึ่งรุมกดดันคนขับรถยนต์คู่กรณี) ... ขอภาวนาอย่าให้เกิดปัญหากับพี่มอเตอร์ไซด์เลย สาธุ พี่ๆ เค้าน่าเกรงขามมาก


อาหารชั่งกิโล

เป็นเรื่องปกติมากถึงมากที่สุดที่จะพบเจอร้าน Self-service หรือ แนว Buffet ได้ทุกหนแห่ง หลากหลายตัวเลือกให้เราได้ไปสัมผัส ราคาก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ ถ้าร้านอาหารแบบนี้ทั่วๆ ไป ก็จะถูกหน่อย แต่ถ้าขึ้นห้างก็ปรับขึ้นไปตามระดับ ... ร้านอาหารแบบชั่งกิโลก็คือร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ค่ะ หากแต่ที่บราซิลเค้ามีเอกลักษณ์ตรงที่ จะคิดราคาเป็นแบบชั่งกิโล ร้านอาหารส่วนใหญ่จะนำเสนอเมนูอาหารคล้ายๆ กัน มีทั้งของความและของหวาน บางที่ใหญ่หน่อยก็จะมีอาหารหลากหลายขึ้น ทั้งอาหารบราซิลเลี่ยนสไตล์และอาหารญี่ปุ่นไว้คอยบริการ เราไปถึงก็หยิบจาน เดินตักๆ (คิดภาพคล้ายๆ กับเราเดินตักสลัดที่ซิสเลอร์) ใครกินเยอะก็ตักเยอะ ใครกินน้อยก็ตักน้อย แต่คุณคะ มันคิดเงินตามน้ำหนักค่ะ เพราะฉนั้นอย่าหลงลืมนึกว่าไปกินบุฟเฟ่ต์แบบในเมืองไทยเลยเชียว มิใช่ All You Can Eat นะคะ ที่บราซิลไม่มี (เอ๊ะ หรือว่ามี แต่ไม่รู้เอง อิอิ)

จริงๆ ร้านอาหาร per kilo มันก็ไม่แปลกหรอกนะคะ เพียงแต่อดไม่ได้ที่จะหยิบขึ้นมากล่าวถึง เพราะรู้สึกว่าไปเมืองนอกเมืองนามาก็หลายที่อยู่ เห็นแต่จะมีที่บราซิลที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้ น่ารักดี :)


ห้ามใช้โทรศัพท์ในธนาคาร

ที่บราซิล (แต่อาจจะไม่ทุกรัฐทุกเมืองนะคะ) มีกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในธนาคาร เวลาที่เราเข้าไปทำธุรกรรมใดๆ ในธนาคาร เราไม่สามารถหยิบมือถือขึ้นมาใช้ได้ สามีบอกว่าเป็นมาตรการป้องกันการถูกปล้น เพราะเคยมีเหตุการณ์ประมาณว่าลูกค่าธนาคารไปถอนเงินสดจำนวนหนึ่ง แล้วถูกป้นตอนออกจากธนาคารไปแล้ว ตำรวจพบว่ามีสายจากในธนาคารคอยโทรแจ้งเบาะแสให้คนร้ายดักปล้น ดั้งนั้นจึงมีการออกกฎห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในธนาคารเด็ดขาด ... ไม่รู้ว่าช่วยได้มากน้อยแต่ไหนนะคะ แต่มันช่างฟังดูน่ากลัวจริงๆ ดีนะไม่มีตังค์ไปฝากไปถอน เลยยังไม่เคยมีประสบการณ์ตรง


ปรบมือเรียกหน้าบ้าน

เป็นวัฒนธรรมที่น่ารักอีกอย่างนึงของบราซิล เวลาไปบ้านใคร แล้วมองไม่เห็นกริ่ง หรือใครมาบ้านเราแล้วหาสวิตช์กริ่งไม่เจอ ก็จะไปยืนปรบมือแปะๆ อยู่หน้าประตูบ้าน เป็นการเรียกให้เจ้าของบ้านออกมารับแขก และทุกครั้งที่ได้ยินเสียงคนปรบมือที่หน้าบ้านคนอื่น จะรีบวิ่งไปแอบดูที่หน้าต่าง ช่วยลุ้นว่าคนในบ้านนั้นจะได้ยินไหม เมื่อไหร่จะมาเปิดประตูซักที เห็นแล้วขำดี :D


วัฒนธรรมการใช้บัตรเครดิต

ที่บราซิลคุณจะแปลกใจว่าไปเดินตลาดนัด ตลาดสด ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของเล็กๆ น้อยๆ เช่น น้ำดื่มและขนมจุบจิบราคาไม่กี่เหรียญก็สามารถขอจ่ายด้วยบัตร และสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะจ่ายเป็นแบบเครดิตหรือเดบิต (จ่ายเงินสดผ่านบัตร) เพราะคนที่นี่ไม่นิยมพกเงินสดติดตัวจำนวนมากๆ เนื่องจากเสี่ยงต่อการถูกจี้ปล้น และอีกมุมหนึ่งคือการชำระสินค้าและบริการต่างๆ โดยการใช้บัตรสะดวกสะบายมาก อ้อ ที่สำคัญร้านค้าส่วนใหญ่ มีบริการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ให้โดยไม่มีดอกเบี้ยให้กับลูกค้าอีกด้วย ... เสียดายที่เมืองไทยบ้านเราไม่มีแบบนี้มั่ง หาที่รับบัตรอยากมาก ต้องไปห้างอย่างเดียวเลย

แต่จะว่าไปความสะดวกสบายนี้มันช่างแฝงความน่ากลัวไว้เงียบๆ เพราะเราอาจจะเพลินกับการจ่ายแบบเครดิต แบ่งชำระได้ 3-10 เดือนโดยไม่มีดอกเบี้ย (และแล้วแต่ประเภทสินค้าและดุลยพินิจจากทางร้านค้า) เลยทำให้เพลินกับการชอปปิ้งไปโดยไม่รู้ตัว ดาบสองคมจริงๆ


ปาร์ตี้วันเกิดเด็กเล็ก

อยากบอกว่าที่บราซิลการจัดงานวันเกิด โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ช่างเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน เคยผ่านงานปาร์ตี้วันเกิดเด็กเล็กๆ ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ไปจนถึงเฉียดๆ 10 ขวบ ... แม่เจ้า มันอลังการเหลือเกิน  แขกเยอะ จัดเต็มทั้งสถานที่ อาหารเครื่องดื่ม ขนม เครื่องเล่นต่างๆ แถมมีโชว์พิเศษๆ มีดีเจคอยเปิดเพลงให้ด้วย บางทีมีธีมด้วยอีต่างหาก

แอบคิดในใจ เด็กเล็กๆ เค้าคงไม่รู้เรื่อง จำความไม่ได้หรอกนะ ว่าเคยมีงานปาร์ตี้วันเกิดใหญ่โตขนาดนี้ ก็เคยคุยกับสามี เค้าก็บอกว่าเป็นเรื่องปกติที่คนบราซิลเค้าทำกัน ไอ้เราก็คนบ้านนอก ไม่คุ้นกับงานเด็กๆ แต่ใหญ่โตแบบนี้ เลยแอบเสียดายเงินแทน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เงินเรา อิอิ ... แต่ตอนนี้เริ่มชินกับวัฒนธรรมนี้ซะแล้ว เพียงแต่ยังคงแปลกใจกับการลงทุนของผู้ปกครองที่นี่ทุกครั้งที่มีโอกาสได้ไปร่วมงาน


คิดไม่ออกแล้ว ได้แค่นี้ล่ะค่ะ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมาแชร์ประสบการณ์เพิ่มเติมอีกที :)